ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่าย สามารถใช้ได้ทุกคน แน่นอนว่าการบริหารจัดการช่องทางออนไลน์ของแบรนด์ต่างๆ ก็ทำได้ง่ายมากขึ้น ใครๆก็สามารถมีช่องทางขายเป็นของตัวเองได้ ใครๆก็สามารถบอกตัวตนของแบรนด์ให้ทุกคนเข้าถึง เป็นที่รู้จักได้อย่างง่ายดาย
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนเสมอไปที่จะสามารถสื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้ดี จึงนำไปสู่การเปิดตัวของบริษัทเอเจนซี่ต่างๆ ที่ขอเป็นตัวแทนในการบริหารแบรนด์ รับดูแลแฟนเพจ รับทำเว็บไซต์ รับทำโฆษณาเฟซบุ๊ค หรือแม้แต่บริหารงบช่องทางออนไลน์ ทั้งยังมีเจ้าของแบรนด์อีกหลายคนที่ยังสับสน ลังเล ไม่แน่ใจ ว่าระหว่างทำแฟนเพจเอง กับจ้างทำแฟนเพจ อันไหนได้ผลดีกว่า?
แน่นอนว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านตรงนี้ คุณต้องกำลังสนใจการจ้างเอเจนซี่เพื่อให้ดูแลช่องทางออนไลน์ของแบรนด์คุณอย่างแน่นอน แต่ก็อาจจะยังสับสน หรือมีคำถามอยู่ในใจ ว่าจ้างทำเพจมันดีกับแบรนด์เราจริงไหม? จ้างแล้วจะคุ้มไหม? มันดีกว่าที่เราทำเองจริงๆหรือไม่?
วันนี้เราจะเปรียบเทียบให้ดูแบบชัดๆ หมัดต่อหมัดกันไปเลย ว่าระหว่างทำแฟนเพจด้วยตัวเอง กับ จ้างเอเจนซี่ทำแฟนเพจ อันไหนได้ผลดีกว่ากัน
ข้อดีของการทำแฟนเพจเอง หรือทำโดยทีมงานภายในบริษัท ข้อแรกเลยนั้น คงหนีไม่พ้นค่าใช้จ่าย ที่มีราคาถูกแสนถูก เพราะไม่ต้องบวกค่าบริการที่เอเจนซี่เก็บเพิ่ม ทำให้งบประมาณบริษัทของคุณประหยัดส่วนตรงนี้ไปได้เยอะเลยทีเดียว
ซึ่งส่วนสำคัญที่คุณจำเป็นต้องมีคือทักษะการบริหารช่องทางออนไลน์ที่ดีเยี่ยม ต้องมีความรู้ในสื่อใหม่อยู่มากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนกลยุทธ์ การบริหารงบโฆษณา การทำโปรดักชั่น และยิ่งถ้าแบรนด์ของคุณมีหลากหลายช่องทาง อาทิ Facebook , Line , Instagram , Youtube ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญในช่องทางนั้นๆ ซึ่งหากคุณทำทั้งหมดได้ดีล่ะก็.. เอเจนซี่ก็จะไม่จำเป็นอีกต่อไป แถมประหยัดงบอีกด้วย
แน่นอนว่าการทำธุรกิจ ก็จะไม่มีใครที่จะรู้จักธุรกิจคุณดีเท่าตัวของคุณเองอยู่แล้ว กับผู้บริหารที่ก่อตั้ง กับพนักงานที่อยู่มาหลายปี แน่นอนว่าความอินในแบรนด์นั้น ย่อมมีมากกว่าตัวเอเจนซี่อย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีการบรีฟงานเกิดขึ้นมากมาย แต่เชื่อเถอะ ว่าไม่มีใครรู้จักแบรนด์คุณ ดีเท่าตัวคุณอย่างแน่นอน
ดังนั้นก็จะเป็นการดีที่คุณจะทำช่องทางออนไลน์เอง โดยไม่ต้องเสียเวลามาเล่าให้คนอื่นฟัง ว่าสินค้าของคุณเป็นแบบไหน มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพราะคุณรู้จักมันดียิ่งกว่าใคร เพียงแค่หาวิธีสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้ได้ เท่านี้ก็ไม่ต้องเสียเงินมากมายเพื่อจ้างเอเจนซี่แล้วล่ะ
แม้คุณจะรู้จักสินค้าของคุณดีกว่าใคร แต่คุณมีวิธีสื่อสารที่ดีหรือยัง? คุณรู้หรือยังว่าคุณจะหาลูกค้าได้จากที่ไหน? หรือคุณทราบหรือไม่ว่าโพสต์แบบไหนโดนใจกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งในช่องทางออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงมากๆ ในขณะที่คุณกำลังนั่งเครียดอยู่ว่า ลูกค้าคุณชอบอะไร สนใจอินไซต์แบบไหน คุณอาจจะเสียลูกค้าให้แบรนด์คู่แข่งไปแล้วไม่รู้กี่คนก็ได้
แต่เอเจนซี่นั้นรู้จักผู้บริโภคดียิ่งกว่าใคร เอเจนซี่รู้ดี ว่าจะไปหาลูกค้าจากไหนให้คุณได้เยอะๆ ข้อมูลของเอเจนซี่ในด้านอินไซต์นั่นแน่นมาก หลับตาก็สามารถรู้ได้ว่า ลูกค้าในอนาคตของคุณกำลังสนใจเรื่องอะไร กำลังค้นหาอะไร เทรนด์อะไรที่คนส่วนใหญ่สนใจ แถมยังมีเทคนิค กลยุทธ์มากมายในการสื่อสารได้ดี ดังนั้นการจ้างเอเจนซี่จะทำให้คุณไม่ต้องมานั่งเครียดเรื่องการเดาใจลูกค้า เพียงนั่งรอเฉยๆ ลูกค้าก็จะเดินมาหาคุณเองอย่างง่ายดาย
อีกหนึ่งปัญหาที่ทุกธุรกิจจะต้องเจอ คือ ขาดบุคลากรที่เชี่ยวชาญในเรื่องสื่อออนไลน์ เพราะหากคุณอยากลงสนามแข่งขันออนไลน์แล้วล่ะก็ มันไม่ใช่เพียงแค่การโพสต์เฟซบุ๊คไปวันๆ แล้วกดบูสโพสต์ แต่มันมีมากกว่านั้น เพราะการมีแฟนเพจสามารถเป็นอาวุธชั้นยอด ที่จะเอาชนะคู่แข่งของคุณได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ใช้เครื่องมือที่มี ทำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
หากคุณไม่เคยทราบเลยว่าการทำสื่อออนไลน์ มีเครื่องมือไหนเจ๋งๆ ที่จะสามารถทำให้คุณอยู่เหนือกว่าใครในสนามแข่งนี้ ลองอ่านบทความของเราเบื้องต้นดูก่อนได้ 5 เครื่องมือฟรี ที่เจ้าของเพจทุกคนควรมี
คงจะได้รับความรู้กันไปไม่น้อยใช่ไหมคะ? แต่หากคุณอ่านแล้ว รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยากจัง ไม่มีเวลาศึกษา คุณต้องยอมรับว่าธุรกิจของคุณยังขาดความเชี่ยวชาญในด้านสื่อออนไลน์จริงๆ ดังนั้นเอเจนซี่จึงตอบโจทย์ในด้านนี้ เพราะเค้ามีผู้เชี่ยวชาญในทุกขแนง รู้ลึก รู้จริง ทุกเครื่องมือ อย่าเสียเวลาศึกษาเองอีกต่อไป จ้างเลย <3
เพราะเอเจนซี่ รู้ดีเรื่องการตลาดออนไลน์มากกว่าใคร หากคุณอยากจ้างผู้เชี่ยวชาญซักคนมาอยู่ในบริษัท คนๆนั้นจำเป็นต้องมีความรู้รอบด้าน ใช้เป็นทุกเครื่องมือ ซึ่งหายากมากๆ แต่เอเจนซี่มีนั้นมีทีมงาน ที่เชี่ยวชาญเฉพาะแต่ละช่องทางเช่น กลยุทธ์การตลาด การลงโฆษณาเฟซบุ๊ค การทำเว็บไซต์ การเขียน SEO การวัดผล การหากลุ่มเป้าหมาย หรือแม้กระทั่งการเขียนโค้ด ทำให้คุณสบายใจได้ ว่างานของคุณจะออกมาได้อย่างราบรื่น
อยากให้เชื่อมั่น ว่าเอเจนซี่นั้นสามารถใช้ทุกเครื่องมือการตลาดที่มีอยู่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ใช้ทุกเม็ดเงินลงทุนออนไลน์ได้อย่างคุ้มค่า สามารถขับเคลื่อนแบรนด์ของคุณไปได้ไกล สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน
เพราะในหนึ่งธุรกิจนั้น มีหลายอย่างให้ทำมากกว่าการตลาดออนไลน์ เช่น การตลาดออฟไลน์ การพัฒนาสินค้า การทำบัญชี การคิดโปรดักใหม่ๆ ฯลฯ หากคุณจ้างเอเจนซี่ช่วยทำแฟนเพจ ช่วยทำการตลาดออนไลน์ ก็จะประหยัดเวลาตรงนี้ไปได้มากเลยทีเดียว สามารถเอาเวลาไปทำอยางอื่นได้อีกมากมายที่สำคัญกับธุรกิจ
ส่วนในเรื่องของลดความเสี่ยงนั้น แน่นอนว่าการที่คุณจ้างเอเจนซี่ คุณจะมั่นใจได้ว่า เอเจนซี่มีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่คุณจ้างอย่างแน่นอน แต่การที่คุณเสียเวลามาจ้างพนักงานบริษัท ซักหนึ่งคนนั้น จะต้องมีปัจจัยเสี่ยงหลายๆอย่างเช่น ใช้เวลาเรียนรู้งานนาน ยิ่งหากเป็นเด็กจบใหม่ก็จะเสียเวลาเพิ่มขึ้นไปอีก หรือการมีพนักงานบริษัทหนึ่งคน ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาเช่น สวัสดิการต่างๆ ประกันสังคม ซึ่งหากจ้างคนที่ใช่ ก็จะดี แต่หากพนักงานคนนั้นยังไม่ตอบโจทย์บริษัท เงินที่ทุ่มเทไปก็จะเสียไปโดยใช่เหตุ โดยกลับกันนั้น หากคุณกลัวจ้างเอเจนซี่ที่ไม่ได้เรื่องมา คุณยังมีเวลาพิสูจน์ เพราะสามารถลองจ้างเป็นสัญญาแบบสั้นๆ เช่น โปรเจก 1-3 เดือน หากถูกใจ ก็จะได้ลุยงานด้วยกันไปยาวๆนั่นเอง
ในหลากหลายธุรกิจ เจ้าของแบรนด์มักจะปฎิเสธการจ้างงานเอเจนซี่ เหตุผลเพียงเพราะ ราคาสูงเกินจำเป็น หรือสู้ราคาต่อเดือนไม่ไหว แต่หากมองอีกมุม การจ้างเอเจนซี่ คือการจ้างผู้เชี่ยวชาญให้มาดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่คิดวางแผน วิเคราะห์สินค้า วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ไอเดียครีเอทีฟต่างๆ การทำกราฟฟิกต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีต้นทุนของมันอยู่แล้ว เชื่อเถอะว่าคุณไม่ได้จ่ายแพงมากมายขนาดนั้น บางทีเครื่องมือต่างๆ ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง
ดังนั้นงบประมาณ จึงเป็นเรื่องของความพึงพอใจ สำหรับเจ้าของแบรนด์ไหนที่กำลัง ลังเล ว่าควรจ่ายหรือไม่ควร ให้ลองกำหนดงบประมาณสำหรับตรงนี้ดูก่อน แล้วค่อยๆศึกษา ตามหาเอเจนซี่ที่ใช่ เพราะแต่ละที่ ก็มีราคา บริการที่แตกต่างกันไป ถ้าตรงใจกับงบประมาณที่คุณตั้งไว้ ก็ลองยอมจ่ายดู แต่ถ้าคิดว่าสูงเกินจำเป็น ให้ลองศึกษา ลองทำเองดูก่อนได้ค่ะ
อีกข้อเสียที่ต้องคำนึงก็คือการจ้างเอเจนซี่นั้น คุณต้องยอมรับว่า เค้าไม่ได้ดูแลคุณเพียงแค่คนเดียว แต่ยังมีลูกค้าแบรนด์อื่นๆที่ต้องดูแลอีกหลายเจ้า ซึ่งอาจจะทำให้เอเจนซี่ไม่ได้โฟกัสแบรนด์ของคุณได้เต็มที่มากนัก หรือบางทีที่คุณอยากติดต่อตัวแทนในทันทีทันใด เอเจนซี่อาจจะไม่ได้มีเวลาตอบคุณทันทีที่คุณต้องการ
แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะมันก็มีวิธีดีๆ ในการเลือกเอเจนซี่ที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา ให้ลองมองหาเอเจนซี่ที่มีตัวแทนที่คุณสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา ตัวแทนที่ดูแลเฉพาะแบรนด์ของคุณ เพียงเท่านี้ปัญหาเอเจนซี่ไม่มีเวลาให้ก็จะเบาลงนั่นเองค่ะ
ทราบข้อดีข้อเสียทั้งสองอย่างกันไปแล้ว หลายคนก็เริ่มตัดสินใจได้ ว่าทิศทางการบริหารแบรนด์จะเป็นไปในทางไหน หลายคนวิเคราะห์แล้วคิดว่าทำเองน่าจะดีกว่า หลายคนมองเห็นว่าจ้างทำน่าจะเวิร์คกว่า ทีนี้ก็มานั่งเครียดกันต่อ ว่าเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเอเจนซี่ที่เราจ้างมานั้น ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพหรือไม่?
หมดกังลได้เลย ว่าจะเลือกแล้วพลาด เพราะเรามีเทคนิคดีๆ มองเอเจนซี่ให้ขาด วิธีเลือกเอเจนซี่ได้ตรงใจ รับรองว่าหากนำไปใช้ คุณจะเลือกได้อย่างแม่นยำ ตรงใจ ขับเคลื่อนแบรนด์ไปได้ไกลอย่างแน่นอน
Portfolio คือสิ่งสำคัญ
อันดับแรกที่เราจะดูเอเจนซี่เลยนั้น ให้เราไปสอดส่องลูกค้าที่เค้าเลยดูแล ว่าฟีดแบกเป็นอย่างไร ผลงานที่เคยทำมาเวิร์คมั้ย สไตล์ตรงกับที่เราชอบมั้ย หรือหากมีโอกาสเลือกเยอะๆ ควรเลือกเอเจนซี่ที่สามารถสร้างผลงานได้หลากหลายสไตล์ งานของเราจะได้ยูนีค โดดเด่นไม่ซ้ำใครนั่นเอง
หน้าตาเว็บไซต์น่าสนใจหรือเปล่า?
แน่นอนว่าการเป็นเอเจนซี่ ไม่ว่าจะทำเพจ ทำเว็บไซต์ ฯลฯ ผลงานจะต้องทำออกมาได้สวย ดูดี และเช่นเดียวกัน ในหน้าบ้านของเอเจนซี่เอง ก็จะต้องดูดี เราจึงควรดูตรงนี้เป็นหลักในการเลือกเอเจนซี่ ถ้าหน้าเว็บไซต์ หรือแฟนเพจของเอเจนซี่ ดูสวยดึงดูดใจ นั่นแปลว่าเค้าจัดหน้าบ้านได้ดี เหมาะสมที่จะทำงานด้วย แต่หากแม้แต่หน้าบ้านยังไม่น่าสนใจ เราก็ควรปัดบริษัทนั้นตกไปได้เลยทันที
มีตัววัดผลที่ดีหรือเปล่า?
นอกจากผลงานที่น่าสนใจแล้ว เอเจนซี่ที่ดูน่าเชื่อถือ ควรจะมีตัววัดผลให้คุณด้วย ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีแตกต่างกันไป เช่น การรันตียอดขายเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งมันจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้นก่อนเลือกจ้างเอเจนซี่เจ้าไหน ให้ลองพูดคุย ปรึกษาดูได้ ว่าเค้ามีตัววัดผลยังไง รายงานผลการทำงานทุกเดือนไหม เพียงเท่านี้การเลือกเอเจนซี่ ก็เป็นสิ่งที่ง่าย ไม่ปวดหัวอีกต่อไป