ในอดีตนั้น สมัยคุณพ่อคุณแม่ของเรา เวลาที่สงสัยอะไรหรืออยากจะได้คำตอบในเรื่องไหนก็ต้องเดินทางไปห้องสมุด เปิดหากันในหนังสือที่มีหลายเล่ม กว่าจะไปถึงกว่าจะหาเจอ ก็เสียเวลากันไปเป็นวันๆ ต่างกันกับในปัจจุบันที่ไม่ว่าคุณสงสัยอะไร หรืออยากจะหาคำตอบในเรื่องไหน เพียงแค่คุณเปิด Google และพิมพ์คำที่คุณต้องการ เพียงชั่วอึดใจ คำตอบก็ออกมาหลายร้อยอันให้คุณได้คลายความสงสัยโดยที่คุณแทบจะไม่ต้องเดินไปไหนกันเลยค่ะ
เราทุกคนต่างทราบความสามารถอันสุดยอดของ Google กันเป็นอย่างดี และยังทราบว่า Google ก็คือ Search Engine ตัวหนึ่งนั่นเอง หลายคนอาจจะเข้าใจ แต่อีกหลายคนคงสงสัยว่า แล้วเจ้าตัว Search Engine จริงๆแล้วมันคืออะไร
Searh Engine ก็คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ อีกมากมาย
SEO ( Search Engine Optimization) คือ การทำให้เว็บไซต์ของเราเหมาะที่สุดสำหรับโปรแกรมค้นหา เพื่อให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้นเราลองนึกภาพตามกันดูนะคะ ว่าถ้าเรากำหนดให้
สมมติว่าเราต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับ “ ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา ” เมื่อเราเข้าไปในห้องสมุดในที่นี้ก็คือ Search Engine แล้วไปบอกกับ Google ซึ่งก็คือบรรณารักษ์ว่า เราต้องการจะทราบเกี่ยวกับ “ ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา ” Google ก็จะเป็นคนเป็นที่ไปหยิบหนังสือ นั่นก็คือ Website ต่างๆมาให้เรานั่นเอง โดยคำที่เราค้นหา สามารถเรียกได้ง่ายๆ ว่า Keyword นั่นเองค่ะ
เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือ การทำ SEO คือ การทำให้หนังสือของเรา เป็นหนังสือที่ติดอยู่ในอันดับที่ 1 โดดเด่นที่สุดในชั้นวาง ซึ่งไม่ว่ายังไงบรรณารักษ์ก็จะต้องเลือกอยู่แล้วจริงมั้ยคะ
สรุป การทำ SEO คือ การใช้ Keyword และวิธีต่างๆ ดันเว็บไซต์ของเรา ให้ไปอยู่อันดับต้นๆของการค้นหา นั่นเองค่ะ
คุณเคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมบางบริษัทจึงยอมจ่ายเป็นหลักแสนเพื่อจ้างทำ SEO ทำไมมันถึงกลายเป็นหัวข้อยอดนิยมทุกครั้งเวลาพูดถึงการทำการตลาดออนไลน์ เพราะว่า เดี๋ยวนี้ไม่ว่าคุณจะหันไปทางไหนก็เห็นแต่คนจับมือถือเล่นสมาร์ทโฟน
อยากได้อะไรก็เสิร์ชหาใน Google ไม่ว่าจะอ่านข่าว จะฟังเพลง หรือว่าจะชอปปิ้งออนไลน์ ก็ทำได้ง่ายๆเพียงแค่เสิร์ช ซึ่งไม่ดีกว่าหรือที่เราจะลองทำ SEO ให้เว็บไซต์หรือเพจบนเว็บไซต์ของเราขึ้นไปติดอันดับต้นๆของหน้าผลการค้นหา
ในการทำ SEO เราคงเปรียบเทียบกับการเปิดร้านอาหารในทำเลที่ดี ถ้าร้านอาหารของเราอยู่ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก จอดรถง่าย อาหารอร่อยแน่นอนว่าลูกค้าย่อมเต็มร้านของเราอย่างแน่นอน แต่ในทางกลับกันถ้าร้านอาหารอีกร้านหนึ่งที่อร่อยไม่แพ้กันแต่ทำเลไม่ดี เดินทางลำบาก รถติด ไม่มีที่จอดรถ อยู่ในซอยลึก ซอยแคบ แน่นอนว่าคงมีหลายคนเลือกจะไม่ไปร้านนั้น
ดังนั้นถ้าเว็บไซต์ของติดหน้าแรก Google ได้ นั่นหมายความว่าเราได้ทำเลของเว็บไซต์ดีมากๆ ลูกค้าสามารถค้นหาเจอได้ง่าย เมื่อลูกค้าค้นหาเจอได้ง่าย โอกาสอื่นๆก็ตามมา คนเข้าเว็บไซต์มากขึ้น ขายของได้มากขึ้น คนสมัครบริการมากขึ้น รายได้มากขึ้น คนรู้จักเว็บไซต์มากขึ้น นั่นเอง
การทำ SEO อย่างประสบความสำเร็จ คือ การที่เราสามารถรักษาอันดับ 1 – 3 บนหน้าแรกของผลลัพธ์การค้นหา ให้คงอยู่เป็นเวลานานโดยสร้างความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลที่มีคุณภาพ และการที่มีคนเชื่อถือ คลิ๊กเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากเป็นลิ้งก์ที่สามารถสร้างความเชื่อถือได้มากที่สุด เพราะ Google คัดแล้วว่าเพจนั้นในเว็บไซต์คุณคือหนึ่งในผู้ที่ให้ข้อมูลเนื้อหาตรงที่สุดกับ keyword ที่ user พิมพ์เข้ามา จึงส่งคุณขึ้นไปอยู่ในอันดับแรกๆนั้นเอง
ให้ความสำคัญกับการทำ Content
ในการทำ SEO สิ่งที่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากคือ Content ในสมัยก่อนมีหลายเว็บไซต์ที่ต้องการโกง Google โดยเลือกใช้วิธีอัดจำนวน keyword คำนั้นเข้าไปเยอะๆ ในตัวเนื้อหา เราเรียกว่าการ Spamming เราอยากติด SEO ใน keyword ไหนก็สามารถทำได้ อยากติดคำว่า “รับทำเว็บไซต์” ก็เพียงแค่ใส่คำนี้เข้าไปใน content เยอะๆ ก็จะทำให้ติดอันดับได้แล้ว
Google จึงได้ออก algorithms ที่ชื่อว่า Panda ซึ่งเป็นหนึ่งใน Algorithms หลักที่ Google ใช้ประเมินเว็บไซต์ เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่ users เพราะฉะนั้น สิ่งแรกเลยที่คุณควรจะทำก็คือ ให้คุณคำนึงว่า “การทำ Content ที่ดี ควรทำเพื่อคนอ่าน ไม่ใช่ทำเพื่อ SEO” เพราะโดยส่วนมาก content ที่ติดอันดับในหน้าผลการค้นหา จะมีการเขียนบทความที่ละเอียด เจาะลึก มีการยกตัวอย่าง และใส่คำที่ตรงกับ keyword ไม่ถึง 5 % ด้วยซ้ำไป
นอกจากคุณภาพของ content จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการจัดอันดับผลการค้นหาของ Google ยังมีปัจจัยอื่นอีกที่สำคัญเช่นกัน จะเห็นได้ว่าการทำ SEO ถือเป็นการทำการตลาดออนไลน์แบบระยะยาว ที่สามารถสร้างคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการของคุณได้อย่างยั่งยืน