เพิ่มความเร็วเว็บไซต์ ด้วยวิธีง่ายๆ ทำเว็บให้โหลดเร็วขึ้นทันตาเห็น

เพิ่มความเร็วเว็บไซต์ ทำอย่างไรได้บ้าง แล้วข้อดีของการมีเว็บไซต์เร็วและแรง จะมีอะไรบ้าง ไปอ่านกันเลย

เว็บไซต์ของคุณแรงและเร็วพอหรือยัง? เพราะความเร็วของเว็บไซต์นั้น เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ หรือคนที่ทำธุรกิจ เพราะมันสามารถบ่งบอกได้ถึงคุณภาพของเว็บไซต์นั้นๆ ยิ่งถ้าทำโฆษณา Google Ads ด้วยแล้วล่ะก็ ความเร็วของเว็บไซต์จะต้องโหลดเร็ว มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพราะมันมีผลต่อการจัดอันดับโฆษณานั่นเอง หรือให้คุณลองจินตนาการ ว่าถ้าคุณคือผู้ชมเว็บไซต์ คุณก็ไม่ชอบเว็บไซต์ที่โหลดนานๆ เช่นกัน ซึ่งบางที คุณอาจจะเสียลูกค้าคนสำคัญไป ด้วยเหตุผลเพียงเพราะเว็บโหลดช้าก็เป็นไปได้  แต่ทั้งนี้ความเร็วของเว็บไซต์นั้น ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ที่คุณอาจคาดไม่ถึง ว่าแล้วก็ตาม KODSANA.COM มาลองเช็คความเร็วเว็บไซต์ของคุณกันเลย 

 

วิธีเช็คความเร็วเว็บไซต์

ก่อนที่คุณไปถึงขั้นตอนเพิ่มความเร็วเว็บไซต์นั้น เบื้องต้นเราอยากให้คุณสำรวจเว็บไซต์ของคุณก่อน ว่ามีความเร็วเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งเทคโนโลยีสมัยนี้ก็มีเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้กับเรามากมาย แม้คุณไม่ได้เป็นโปรแกรมเมอร์ คุณก็สามารถตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายดาย สำหรับเว็บเช็คความเร็วเว็บไซต์ที่แนะนำ ก็จะมี 2 ตัว ดังนี้

Google Page Speed Insight

Google Page Speed Insight เป็นเครื่องมือที่ทาง Google ได้ปล่อยออกมาให้ใช้กันแบบฟรีๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จุดเด่นของมันคือ สามารถเช็คความเร็วเว็บไซต์ของคุณได้ โดยวิธีใช้คือ เพียงแต่ใส่ URL หน้าเว็บที่ต้องการ และทำการ search ระบบก็จะทำการประมวลผล แสดงเป็นคะแนนออกมาให้เราดูข้อมูล จุดเด่นของเครื่องมือทดสอบความเร็วเว็บไซต์ตัวนี้คือ นอกจากใช้งานง่ายแล้ว ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าเว็บไซต์ของคุณควรจะปรับปรุงในส่วนไหน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น เช่น การปรับขนาดภาพ การบีบอัดไฟล์ต่างๆ การปรับ User Interface ให้เหมาะสมกับผู้ใช้ หรือกำหนดการแคชในเบราว์เซอร์ เป็นต้น

เกณฑ์ที่ดีของ Google Page Speed Insight มีดังนี้

• 90 คะแนนขึ้นไป เกณฑ์ที่ดี (สีเขียว)

• 50-90 คะแนน เกณฑ์ปรับปรุง (สีส้ม)
• น้อยกว่า 50 คะแนน เกณฑ์ค่อนข้างไม่ดี ต้อแก้ไขทันที (สีแดง)

ข้อดีของการใช้ Google Page Speed Insight

• ใช้งานง่ายเพียงแค่ใส่ URL
• แสดงข้อมูลที่เราต้องแก้ไขของเว็บไซต์ เพื่อคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น แก้ไขขนาดรูปภาพ ไฟล์ ปรับข้อมูลให้เข้ากับผู้ใช้

ลองใช้ Google Page Speed Insight : คลิก!

GTmetrix

 

GTmetrix คือเว็บไซต์สำหรับการตรวจสอบคุณภาพของเว็บไซต์ มีจุดเด่นคือมีทั้งแบบฟรี และแพ็กเก็จแบบ Pro  ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่ตรวจสอบเว็บไซต์อย่างจริงจัง เพราะสามารถวิเคราะห์เว็บไซต์ได้แบบเชิงลึก รวมทั้งยังสามารถเข้าถึงรายงานต่างๆ ได้อีกด้วย โดยการวัดคะแนน ของเว็บจะออกมาเป็นเกรด และใช้ algorithm 2 แบบซึ่งแตกต่างกัน จะมีทั้งเช็คความเร็วของเว็บไซต์ และยังให้ข้อมูลในส่วนของ การประมวลผลโดยการตรวจสอบจุดที่ทำให้การโหลดหน้าจอช้า โดยจะคำนวนออกมาเป็นคะแนนเพื่อให้ผู้ใช้งานทราบโอกาสที่จุดนั้นๆ ทำให้หน้าจอช้า ทั้งยังแสดงข้อมูลในส่วนของ ระยะเวลาในการ load หน้าเว็บโดยเฉลี่ย , ขนาดของหน้าจอแต่ละหน้าจอโดยเฉลี่ย , จำนวน request ของเว็บที่มีการดำเนินการ ฯลฯ

การวิเคราะห์ผลลัพธ์ของ GTmetrix มีดังนี้

• Performance ประสิทธิภาพการโหลดของหน้าเว็บไซต์ ซึ่งจะคำนวณออกมาเป็นคะแนน

• Structure โดยการดูจากโครงสร้างของเว็บไซต์ว่ามีคุณภาพเท่าไหร ประสิทธิภาพการโต้ตอบ ความเสถียรของเว็บไซต์
• LCP ใช้บอกระยะเวลาในการโหลดของหน้าเว็บไซต์โดยเฉลี่ยของเรา
• TBT ใช้บอกระยะเวลาของการถูก Block ในการโหลดหน้าเว็บไซต์ของเรา
• CLS ใช้บอกการโต้ตอบของลูกค้า กับเว็บไซต์เรา เกณฑ์ที่ดี คือ น้อยกว่า 0.1

ข้อดีของการใช้  GTmetrix 

• ช่วยบอกประสิทธิภาพ คุณภาพโดยรวมของเว็บไซต์เรา
• มีการวัดระดับการโหลดหน้าเว็บ ปัญหาการโหลดช้ามาจากตรงไหนที่ต้องได้รับการแก้ไข
• แจ้งรายละเอียดการใช้พื้นที่ของเว็บไซต์ว่าใช้พื้นที่ไปกับข้อมูลประเภทไหน

ลองใช้ GT Metrix : คลิก!

Pingdom Tool

Pingdom เป็นเครื่องมือทดสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ซึ่งสามารถทดสอบได้ทั้งความเร็วของเว็บไซต์ ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ซึ่งจะมีรายละเอียด เช่น การให้คะแนนหน้าเว็บไซต์ของเรา(Performance Grade) ,ขนาดของเว็บไซต์(Page Size) ,ระยะเวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์(Load Time) เป็นต้น

สามารถช่วยวัดประสิทธิภาพ คุณภาพของเว็บไซต์ เพียงแค่เราวาง URL และกด Start Test 

การวิเคราะห์ผลลัพธ์ของ Pingdom Tool มีดังนี้

• Performance Grade การให้คะแนนประสิทธิภาพหน้าเว็บไซต์ของเรา
• Page Size ขนาดไฟล์ที่มีอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรา
• Load Time ระยะเวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์
• Request การเรียกขอที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ เพื่อแสดงผล เช่น ภาพ ข้อความ เป็นต้น

ข้อดีของการใช้ Pingdom

• สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์ โดยเลือกพื้นที่ หรือ ประเทศในการโหลดหน้าเว็บไซต์ได้ตามที่เราต้องการทดสอบ
• สามารถทดสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์เป็นรูปแบบคะแนน
• สามารถช่วยบอกจุดที่มีปัญหาของเว็บไซต์ที่ทำให้ความเร็วเว็บไซต์ลดลงได้ เช่น ขนาดรูปภาพ คำขอรายการต่างในเว็บไซต์ เป็นต้น

ลองใช้ Pingdom Tool : คลิก!

การจัดอันดับดีขึ้น 

การจัดอันดับเว็บไซต์นั้น มีหลายปัจจัยมากมาย ที่ Google เป็นคนกำหนด ซึ่งก็จะมีอัลกอริธึม ที่คนทำเว็บไซต์จะต้องศึกษา ไม่ว่าจะเป็นงานหลังบ้าน การทำ SEO ฯลฯ และหนึ่งในนั้นก็คือ “ความเร็วของเว็บไซต์” เพราะจากผลการวิเคราะห์ของเว็บไซต์ Backlinko นั้นพบว่าเว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะมี Search Engine Ranking บน Google สูงกว่าเว็บที่โหลดช้าอย่างเห็นได้ชัด

 

หรือหากใครอยากลองเช็คว่าอันดับเว็บไซต์ของตัวเอง นั้นอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ให้ลองใช้เครื่องมือ What’s My Serp ซึ่งวิธีก็ง่ายมากๆ เพียงสมัครสมาชิกไม่กี่นาที จากนั้นใส่ชื่อโดเมนเว็บไซต์ของคุณลงไป เลือกประเทศ และใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ หรือคีย์เวิร์ดที่คุณเลือกทำ SEO หรือ Google Ads จากนั้นก็รอให้มันประมวลผลนั่นเอง ที่สำคัญคือเครื่องมือนี้ เปิดให้ใช้งานแบบฟรีๆ แต่จะมีข้อจำกัดคือ สามารถใช้งานได้เพียง 20 เว็บไซต์ และจำนวนคีย์เวิร์ดจำกัดอยู่ที่ 25 คำ ต่อเว็บไซต์

ทำให้คนเข้าเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น  

รู้หรือไม่ว่าเว็บไซต์ที่เร็ว สามารถเพิ่ม Website Traffic หรือจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ได้มากขึ้นอีกด้วย เพราะจากข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นพบว่า 40% ของลูกค้านั้นพร้อมที่จะกดปิดเว็บของเราถ้าต้องรอนานเกิน 3 วินาที นั่นหมายถึงว่าถ้าคุณปล่อยให้ผู้ชมเว็บไซต์ ต้องรอโหลดเว็บคุณนานกว่า 3 วินาที คุณจะสูญเสียโอกาสสร้างลูกค้าทันที 40% จากคลิกที่คุณได้มา ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลเลย ที่คุณจะไม่รีบปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์เสียตั้งแต่ตอนนี้

เทคนิคการเพิ่มความเร็วเว็บไซต์แบบง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง!

การเพิ่มความเร็วเว็บไซต์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่ง ในการทำให้อันดับของเว็บไซต์เราดีขึ้น เพราะเว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะมีการ Search Engine Ranking บน Google ที่สูงกว่าเว็บไซต์ที่โหลดช้า โดยมีเทคนิคการเพิ่มความเร็ว 3 วิธีดังนี้

วิธีเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ : เลือก Hosting ให้ดี 

เพราะ Hosting นั้น เรียกได้ว่าคือหัวใจหลักของเว็บไซต์ เพราะข้อมูลทุกอย่างบนเว็บของเรา ไม่ว่าจะเป็นบทความ หรือ รูปภาพ ก็จะถูกเก็บไว้บน Hosting ทั้งหมด อีกทั้งยังส่งผลถึงความเร็วของเว็บไซต์ ความเสถียร หรือเว็บที่ล่มบ่อยๆ ก็อาจเกิด Hosting ไม่ดีก็เป็นได้ 

Web Hosting คืออะไร?

uih.co.th

พื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูล เช่น HTML , รูปภาพ, โปรแกรมต่างๆ ไว้ที่ Web Server ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา โดยเจ้าตัว Web Hosting จะคอยทำหน้าที่ ในการแผยแพร่เว็บไซต์ของเราออกสู่ออนไลน์ เพื่อให้ผู้อื่นเข้าชมได้ โดย Web Hosting จะเชื่อมต่อกับ Internet ตลอดเวลาเพื่อให้บริการเมื่อมีการเรียก ข้อมูลของ Web Site ที่จัดเก็บอยู่ นอกจากนี้ยังให้บริการ การใช้งานอีเมล์ หรือ Script ต่างๆ เป็นต้น

 

เลือก Web Hosting ดีๆ ต้องดูอะไรบ้าง?

adityainfo.co.in

 

• ลักษณะการใช้งานเว็บไซต์ของเรา – อันดับแรกเลยคือ เราจำเป็นต้องดูลักษณะการใช้งานของเว็บไซต์ของ เช่น ต้องการปริมาณการใช้งานมากน้อยแค่ไหน หรือจุดประสงค์ที่ต้องการใช้เว็บไซต์คืออะไร จากนั้นก็ตามหาโฮสติ้ง ที่เหมาะสมจะรองรับแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือที่คุณต้องใช้สร้างเว็บไซต์ที่ต้องการ รวมทั้งให้พื้นที่เก็บข้อมูล ความเร็ว และความน่าเชื่อถือที่เพียงพอแก่เว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ของคุณมีระบบรับชำระเงินหรือไม่ , เว็บไซต์ของคุณมีการเขียนบล็อค หรือมีจำนวนรูปภาพเยอะหรือเปล่า

• ตำแหน่งที่ตั้งของ Sever – ส่วนนึงที่สำคัญคือ ดูว่าระบบที่ให้บริการนั้นอยู่ภายในหรือภายนอกประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียกเข้าเว็บไซต์ ของผู้ชมโดยตรง ส่วนนึงเราควรดูว่า คนที่เข้าชมเว็บเรา เป็นคนภายในหรือต่างประเทศ หากเป็นคนในประเทศ เราก็ควรเลือกซื้อโฮสติ้งภายในประเทศ ซึ่งยืนยันได้เลยว่า จะส่งผลให้เว็บไซต์ ของเราเรียกข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง 

• บริการหลังการขาย – การให้บริการหลังการขายถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว คุณควรควรเช็คให้แน่ใจ ว่าเวลาในการให้บริการของ Web Hosting ในการให้บริการตอบคำถาม หรือติดตามปัญหาต่างๆ รวดเร็วแค่ไหน มีบริการตลอด 24 ชั่วโมงไหม เบื้องต้นอาจจะทดสอบจากการคุยกับตัวแทนของบริษัทนั้นๆ ก่อน ว่าบริการหลังการขายของทางบริษัท มีอะไรให้คุณบ้าง

• ราคา – เพราะทุกการลงทุนจะต้องได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ดังนั้นในเรื่องของราคา ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เช่าโฮสติ้งทุกคนจะต้องคำนึง ราคาในที่นี้ ไม่ใช่แต่เพียงว่า อันนี้ถูก อันนี้แพง แต่ควรเลือกให้ ”คุ้มค่า” ให้ดูว่าราคานั้นเหมาะสมกับสิ่งที่ได้รับหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการบริการ ขนาดแพ็กเก็จ ปริมาณการใช้งาน หากสิ่งที่ได้รับ เหมาะสมกับเงินที่จ่ายไปแล้วล่ะก็ แพงแค่ไหนก็คุ้มค่า

 

เลือก Web Hosting ดีๆ เลือก KODSANA.COM สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิก!

 

วิธีเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ : ลดขนาดไฟล์บนเว็บไซต์ 

ขนาดไฟล์ในที่นี้ หมายถึงจำพวกรูปภาพต่างๆ เพราะรูปภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะสามารถกำหนดเส้นเป็น เส้นตายได้เลย ว่าเว็บไซต์ของคุณจะโหลดเร็ว หรือ โหลดช้า ดังนั้น รูปภาพหรือไฟล์ต่างๆ บนเว็บไซต์ จึงไม่มีควรมีขนาดที่ใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้เว็บไซต์โหลดช้า โดยวิธีเบื้องต้นที่หลายคนเริ่มทำก็คือการลดขนาดรูป เช่น จากสัดส่วน  1,500×1,000 pixels เปลี่ยนให้เป็นสัดส่วน 1,000×500 pixels ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ได้ผล แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราไม่จำเป็นต้องลดคุณภาพของไฟล์ แต่ใช้วิธีบีบไฟล์ให้ขนาดลดลงแทน ซึ่งเทคโนโลยีสมัยนี้ ก็สามารถบีบอัดไฟล์ภาพได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้เว็บไซต์บีบอัดไฟล์ที่จะแนะนำก็มีดังนี้

Tiny

ทดลองใช้ : คลิก! 

สำหรับ Tiny นั้น เป็นเว็บสำหรับบีบอัดไฟล์สัญชาติจีน ที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากเลยทีเดียว เพราะมันสามารถบีบอัดไฟล์ได้สูงสุดถึง 60% แถมไฟล์ที่ได้ออกมานั้น ก็แทบหาความแตกต่างไม่เจอเลยทีเดียวล่ะ ซึ่งวิธีใช้นั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่คุณอัพโหลดไฟล์ภาพที่ต้องการโหลดขึ้นไปที่เว็บ จากนั้น Tiny ก็จะทำการบีบไฟล์ของคุณ ขั้นตอนสุดท้ายก็คือโหลดไฟล์ที่เสร็จเรียบร้อย เป็นอันเสร็จขั้นตอน

Kraken

ทดลองใช้ : คลิก!

รูปแบบของไฟล์ภาพและการบีบอัดก็มีผลเช่นเดียวกัน โดยภาพนามสกุล PNG นั้นจะรักษาคุณภาพไว้ตามต้นฉบับ 100% แต่บางครั้งอาจจะทำให้ภาพมีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อใช้กับภาพถ่าย หากเรายอมลดคุณภาพบางส่วนได้อาจจะเลือกใช้ภาพแบบ JPG แทน ซึ่งจะได้ภาพที่มีขนาดเล็กกว่ามาก

iloveimg

ทดลองใช้ : คลิก!

Iloveimg เป็บเว็บไซต์ที่สามารถทำได้หลากหลาย เช่น บีบอัดรูปภาพ ปรับขนาดรูปภาพ ตัดแต่งรูปภาพ การแปลงไฟล์ การนำพื้นหลังออก การแปลงHTMLเป็นรูปภาพ เป็นต้น ซึ่งมีหลายรูปแบบให้ใช้ สามารถทำได้โดยการอัพโหลดไฟล์ลงไป และเว็บจะทำการแก้ไขให้เป็นอันเสร็จสิ้น

วิธีเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ : ทำ Lazy Loading

Lazy loading คืออะไร?

Medium.com

 

Lazy loading เป็นเทคนิคหนึ่งในการทำให้เว็บแสดงผลได้ไวขึ้น หลักการก็คือ แทนที่จะส่ง request ไปเรียกไฟล์ assets ทั้งหมดที่ใช้ในเพจพร้อมกันตั้งแต่ตอนโหลด ก็เปลี่ยนเป็นการส่ง request ออกไปเมื่อ “จำเป็น” เท่านั้น อธิบายแบบง่ายๆ ก็คือ สมมติในเว็บไซต์หนึ่งหน้า มีรูปภาพอยู่หลายรูปด้วยกัน แต่หากผู้ชมเว็บไซต์ ยังเลื่อนไปไม่ถึงส่วนที่มีรูปภาพ ก็จะยังไม่มีการโหลดรูปภาพนั้นนั่นเอง 

 

เว็บไซต์แบบไหน ที่ควรใช้ Lazy loading 

Raoulkramer.de

จริงๆ แล้วทุกเว็บไซต์ควรจะมีการใช้ Lazy Load เพราะประโยชน์ของมันคือ สามารถทำให้เว็บไซต์ของเราไม่ต้องโหลดไฟล์ขหนาดใหญ่หลายไฟล์พร้อมกันทั้งหมดทีเดียว ซึ่งส่งผลไปถึงการช่วยทำให้เว็บแสดงผลได้เร็วขึ้น ดังนั้นจะเหมาะมาก กับเว็บไซต์ที่มีรูปภาพเยอะๆ หรือสินค้าจำนวนมาก หรือเว็บไซต์ที่มีการแสดงวิดิโอ เพราะมันสามารถ Lazy Load ได้ทั้งสำหรับภาพและวิดีโอ โดยวิดีโอนั้น ระบบจะดึงภาพ Thumbnail ของวิดีโอมาใช้เป็นภาพแทนอีกด้วย และเมื่อผู้ใช้จะชมวิดีโอจริงๆ เขาถึงจะกดเล่นวิดีโอ ทำให้ลดความช้าในการโหลดวิดีโอ

เว็บไซต์เร็วส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร ?

• First Impression ของธุรกิจ

การสร้างความประทับใจแรกสำหรับลูกค้า หรือ กลุ่มเป้าหมายที่เราสนใจในธุรกิจ ถ้าเว็บไซต์เราโหลดเร็ว เข้าเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรกก็สร้างความรู้สึกดีๆให้กับลูกค้า ทำให้ธุรกิจดูดีมากขึ้น

• การจัดอันดับของเว็บไซต์ดีขึ้น

Google มีการจัดอันดับให้กับเว็บไซต์ที่โหลดได้เร็ว เป็นปัจจัยสำคัญของ Google Serch Engine ซึ่งจะทำให้อยู่อันดับแรกๆ ที่ผู้คนสามารถค้นหาเจอได้ง่าย การที่อยู่หน้าแรกของเว็บไซต์ทำให้ SEO ของธุรกิจดีมากยิ่งขึ้น กว่าเว็บไซต์ที่โหลดได้ช้า 

• จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้น

การที่เว็บไซต์สามารถโหลดได้เร็ว ทำให้คนอยู่กับเราได้นานขึ้น เพราะถ้าเว็บไซต์โหลดช้าคนก็ไม่อยากรอนานเกิน 5 วินาที ก็ทำให้ย้ายไปสนใจเว็บไซต์อื่นที่โหลดได้เร็วกว่า

• สร้างผลกำไรที่เติบโตมากขึ้นให้กับธุรกิจ 

การที่คนสามารถหาเว็บไซต์เราเจอเป็นอันดับแรกๆใน Google เว็บไซต์โหลดได้เร็ว SEO มีคุณภาพจะช่วยดึงดูดลูกค้าที่มีความสนใจเข้ามาในหน้าเว็บไซต์ของธุรกิจ ก็จะทำให้ธุรกิจมีลูกค้าเพิ่มขึ้นธุรกิจเติบโต

สรุป

ก็หวังว่าเทคนิคเหล่านี้ จะมีประโยช์กับเจ้าของเว็บไซต์ทั้งหลาย ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมทำคือ ก่อนคุณทำการปรับปรุง ให้คุณเช็คความเร็วเว็บไซต์ ตามเครื่องมือที่แนะนำไปก่อน จากนั้นให้ทำการเพิ่มความเร็ว และอย่าลืมวัดผลความเร็วเว็บไซต์อีกครึ่งหนึ่ง สำหรับเทคนิคด้านบนนี้เป็นเทคนิคพื้นฐานที่ช่วยให้เว็บทำงานได้เร็วขึ้น ที่ขอรับรองได้ว่าเว็บไซต์คุณจะเร็วขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลไปถึงอันดับเว็บไซต์ และจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบไปปรับปรุงพัฒนา เว็บไซต์ของคุณให้เร็วติดจรวจ เพื่อรองรับลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นกันดีกว่า!