Responsive Search Ads คืออะไร

Panida
|Updated: Dec 21, 2023

 

ทำโฆษณาให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ด้วย Responsive Search Ads การสร้างโฆษณาแบบใหม่ ที่จะทำให้ลูกค้าคลิกรัวๆ

อย่างที่เราทราบกันดีว่า Google นั้น มักจะมีเครื่องมือเด็ดๆ ฟีเจอร์เจ๋งๆ ให้เจ้าของเว็บไซต์ หรือนักการตลาดทั้งหลาย ได้เพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา หรือ เว็บไซต์ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของการทำ Google Ads นั้น ก็คงหนีไม่พ้น Responsive Search Ads การสร้างโฆษณารูปแบบใหม่ ที่จะแตกต่างไปจากเดิม เพราะมันสามารถแสดงผลค้นหา ได้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น!

ฟังดูน่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ? วันนี้ KODSANA.COM ขอพามาทำความรู้จัก รูปแบบหนึ่งของโฆษณา นั่นก็คือ Responsive Search Ads จะมีประโยชน์ และแตกต่างจากแบบเก่าอย่างไรบ้าง ไปทำความรู้จักกันได้เลย

Responsive Search Ads คืออะไร

Responsive Search Ads คืออะไร

ขอบคุณภาพจาก : wordstream.com

Responsive Search Ads คือรูปแบบโฆษณาชนิดหนึ่ง ที่เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ทาง Google สร้างมาให้คนทำโฆษณา Google Ads ได้ลองใช้กัน ซึ่งเป็นรูปแบบการสร้างโฆษณาแบบใหม่ ที่แตกต่างจากการสร้างโฆษณาแบบเดิมๆ เนื่องจากเราสามารถสร้าง Headline ได้ถึง 15 แบบด้วยกัน แถมยังสามารถเพิ่มคำอธิบายเพิ่มไปถึง 4 แบบ ซึ่งจะต่างจากที่เราเคยทำก็คือ สามารถสร้าง Headline ได้เพียง 3 แบบ (โชว์ 2 แบบ) และคำอธิบายเพียงแบบเดียวเท่านั้น นั่นหมายถึงคุณสามารถโฆษณาออกมาได้มากถึง 43,680 รูปแบบที่แตกต่างกันเลยทีเดียว

ซึ่งมันเจ๋งมากๆ ตรงที่ คุณสามารถเพิ่มข้อความโฆษณาได้อีกเยอะมาก และแสดงผลได้มากขึ้นตามบริบท หรือสินค้า และบริการที่คุณต้องการจะขาย ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการสร้าง กลุ่มโฆษณาเยอะๆ อีกด้วย ทั้งยังส่งสารที่ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญโดยการปรับเปลี่ยนเนื้อหาของโฆษณาให้ตรงกับข้อความค้นหาของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้มากที่สุด โดยที่คุณแทบไม่ต้องทำอะไรเลยทีเดียว

 

การทำงานของ Responsive Search Ads

Responsive Search Ads คืออะไร

หลักการทำงานง่ายๆ ของ Responsive Search Ads ก็คือ ยิ่งคุณป้อนคำโฆษณา ในส่วนของบรรทัดแรกและคำอธิบายเป็นจำนวนมากเท่าไหร่ Google Ads ก็จะยิ่งมีโอกาสแสดงโฆษณาที่ตรงกับคำค้นหาของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้นั่นเอง

หลังจากที่ป้อน Headline ที่บรรทัดแรกและคำอธิบายแล้ว Google Ads จะนำข้อความทั้ง 2 อย่างมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นส่วนผสมของโฆษณาหลายๆ แบบโดยมีวิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้ซ้ำกัน ซึ่งจะต่างจากโฆษณาทั่วไป ที่คุณต้องมานั่งใส่เอง คุณระบุบรรทัดแรกได้สูงสุด 15 รายการและคำอธิบาย 4 รายการต่อโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทรายการเดียว ถัดไป ในโฆษณาหนึ่งๆ ระบบจะเลือกบรรทัดแรกสูงสุด 3 รายการและคำอธิบาย 2 รายการเพื่อแสดงในชุดค่าผสมและลำดับต่างๆ ทั้งนี้ Google Ads จะคอยทดสอบส่วนผสมของโฆษณาที่มีแนวโน้มจะทำงานได้ดีที่สุดอยู่เรื่อยๆ และดูว่าส่วนผสมใดเกี่ยวข้องกับคำค้นหาต่างๆ มากที่สุด

ข้อดีของ Responsive Search Ads

สะดวก ประหยัดเวลา

ในกรณีที่บางธุรกิจ นั้นมีกลุ่มโฆษณา หรือ คีย์เวิร์ดที่หลากหลายมาก แยกประเภทออกมาได้นับไม่ถ้วนนั้น การทำโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ คุณจะต้องเขียน Text Ads เพื่อได้คะแนน Quality Score ในส่วนความสัมพันธ์ระหว่างโฆษณา และ คีย์เวิร์ดให้ได้สูงที่สุด ซึ่งขั้นตอนก็คือ จะต้องทำการสร้างโฆษณาออกมาหลายตัว เพื่อตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด หรือหากคุณอยากทดสอบว่า โฆษณาตัวไหนทำงานได้ดีที่สุด ก็จะต้องเสียเวลา สร้างโฆษณาหลายๆ ตัวเพื่อนำมาเปรียบเทียบนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องเหนื่อยแบบสมัยก่อนแล้ว เพราะเจ้าตัว Responsive Search Ads นั้น ช่วยผ่อนแรงเราได้ดีในเรื่องนี้เลยทีเดียว เพราะ เราสามารถสร้าง Text Ads ได้ถึง 10 Headline และ 4 Description (แตกต่างจาก Search Ad ธรรมดาที่สร้างได้เพียง 3 Heading) และนำแต่ละอันมา Combine กัน จนได้ Ads ที่แตกต่างกันถึง 40 ตัว ทำให้เราสามารถประหยัดเวลาในการสร้างโฆษณาไปได้เยอะเลยทีเดียว

ส่งข้อความได้ตรงใจ ผู้ค้นหา

การสร้างข้อความโฆษณาแบบ Responsive Search Ads  นั้น มีอีกหนึ่งข้อดีคือ ทำให้เราสามารถส่งข้อความโฆษณา ได้ใกล้เคียงกับ Ke6word ที่มีคนค้นหาเข้ามา ได้มากที่สุด เพราะ หลักการทำงานของโฆษณาประเภทนี้ก็คือ ตัวข้อความโฆษณานั้น จะเลือกแสดงผลโดยใช้ข้อความได้ใกล้เคียงกับคำค้นหามากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ธูรกิจของคุณคือร้านรองเท้า ซึ่งมีรองเท้ามากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ รองเท้าส้นสูง ซึ่งหากคุณไม่ได้ใส่ใจการทำโฆษณาสักเท่าไหร่ คุณจะอาจจะใช้ข้อความโฆษณา ประเภทภาพรวม เช่น “ร้านขายรองเท้าผู้หญิง” แต่หากเป็น Responsive Search Ads นั้น คุณสามารถที่จะใส่ Headline ได้หลากหลายมากๆ เช่น รองเท้าส้นสูงสุดแซ่บ , รองเท้าผ้าใบใส่สบาย , รองเท้าแตะคู่สวย จากนั้นเมื่อมีคนค้นหาเข้ามา เช่น ค้นหาคำว่า รองเท้าส้นสูง โฆษณาก็จะปรากฎคำว่า รองเท้าส้นสูง หรือ Headline ที่เกี่ยวข้องให้ผู้ค้นหา ซึ่งข้อดีก็คือทำให้ผู้ค้นหา ได้เจอผลลัพธ์ที่ตรงใจมากขึ้น 

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับโฆษณา

จากด้านบนนั้นในเมื่อเราสามารถส่งโฆษณา ที่มีเนื้อหาตรงใจผู้บริโภค ผู้ค้นหาก็จะเกิดการคลิกที่มากขึ้น ส่งผลให้อัตรการคลิก หรือ CTR นั้นดีขึ้นตาม อีกทั้งยังทำให้คีย์เวิร์ดแต่ละตัวมี Quality Socore ที่สูงขึ้นตาม สาเหตุมาจาก โฆษณาที่สัมพันธ์กับคีย์เวิร์ดมากขึ้นนั่นเอง ทั้งยังทำให้คุณสามารถทราบได้ว่า โฆษณาแบบไหนตรงใจลูกค้าที่สุด ได้ผลตอบรับดีที่สุด จนเกิดมาเป็นข้อมูลที่สามารถนำมาวิเคราะห์ต่อได้ เพื่อพัฒนาปรับปรุง ตัวโฆษณาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปอีก แถมยังทำมีโอกาสสูงมาก ที่ผู้ชมเว็บไซต์ จะกลายเป็นลูกค้า เพราะลูกค้าเหล่านี้ เขาเจอในสิ่งที่พวกเขาต้องการค้นหา ซึ่งแน่นอนว่าโอกาสการเกิด Conversion นั้นมีเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน

ความแตกต่างระหว่าง Responsive Search Ads กับ Expanded Text Ads

หากเอ่ยคำว่า Expanded Text Ads หลายคนอาจจะงง ว่าคืออะไร ต้องกดสร้างตรงไหน แต่จริงๆแล้ว Expanded Text Ads ก็คือการสร้างข้อความโฆษณาทั่วไป ที่นิยมใช้กันเป็นปกติ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีความแตกต่างจาก Responsive Search Ads อยู่ในระดับนึงเลยทีเดียว สำหรับใครที่ไม่เคยใช้โฆษณาแบบหลัง เราจะเปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างโฆษณาสองชนิดนี้ ให้ได้ทราบกัน

Responsive Search Ads คืออะไร

ขอบคุณภาพจาก : wordstream.com

 

Expanded Text Ads 

โดยทั่วไปแล้ว จำนวน Headline ที่แสดง สามารถแสดงได้มากสุด เพียง 2 ส่วน แม้ในขั้นตอนการสร้าง ทาง Google จะให้คุณสร้างถึง 3 ส่วนก็ตามที แต่ระบบจะเลือกแสดงเพียง 2 ส่วนเท่านั้น อีกทั้งยัง ความยาวของตัวอักษร จำกัดที่ 30 ตัวอักษร และข้อความอธิบายเพิ่มเติมนั้น จะแสดงได้ 1 ส่วน แม้จะมีให้เขียนเพิ่มเป็น 2 ส่วนก็ตามที อีกทั้งความของตัวอักษรในข้อความ ถูกจำกัดอยู่ที่ 80 และภาพรวมของความยาวของโฆษณาที่แสดงทั้งหมด จะต้องไม่เกินจาก 150

Responsive Search Ads

เป็นเรื่องที่คนทำโฆษณาจะต้องว้าวมากๆ เพราะคุณสามารถแสดงสรรพคุณสินค้าและบริการของคุณได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากจำนวน Headline ที่ Goolge อนุญาตให้แสดง นั้นสามารถแสดงได้มากที่สุดถึง 3 ส่วนด้วยกัน เรียกได้ว่าข้อมูลครบและแน่นมากถึงมากที่สุด แม้ตัวอักษรจะยังจำกัดอยู่ที่ 30 ตัวอักษร แต่ข้อความอธิบายเพิ่มเติมนั้น สามารถแสดงได้ถึง 2 ส่วนด้วยกัน! และภาพรวมของความยาวของโฆษณาที่แสดงทั้งหมด ก็ถูกเพิ่มจาก 150 เป็น 300 เลยทีเดียว ทำให้นักโฆษณาทั้งหลาย สามารถเขียนบรรยายข้อดี ได้สนุกกันเลยทีเดียว

ขั้นตอนการสร้าง Responsive Search Ads

  1. คลิกโฆษณาและส่วนขยายจากเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
  2. คลิกปุ่มบวก แล้วเลือกโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
Responsive Search Ads คืออะไร
  1. ป้อนรายละเอียดโฆษณา เช่น Headline , URL โดยในระหว่างที่คุณทพการใส่ข้อความนั้น ก็จะมีตัวอย่างโฆษณาจะปรากฏขึ้นทางด้านขวา 
  1.  
  2. ป้อนบรรทัดแรก อย่างน้อย 3 รายการแต่ไม่ควรเกิน 15 รายการ
  3. ป้อนคำอธิบาย อย่างน้อย 2 รายการแต่ไม่ควรเกิน 4 รายการ 
  4. คลิกบันทึก 

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้โฆษณาในรูปแบบของ Responsive Search Ads มาในครอบครองแล้วล่ะ 

สรุป

Responsive Search Ads ก็คือ การสร้างโฆษณารูปแบบหนึ่ง ที่จะทำให้คุณประหยัดเวลามากขึ้น ขยายข้อความได้มากขึ้น และแสดงผลได้ตรงผลลัพธ์ที่ผู้บริโภคต้องการค้นหามากที่สุด

ซึ่งจะมีความแตกต่างจากการสร้างโฆษณาทั่วไปก็คือ จำนวนพาดหัวที่มากขึ้น คำอธิบายที่ยาวยิ่งขึ้น และการเลือกแสดงผลที่สามารถสัมพันธ์กับการค้นหามากขึ้นนั่นเอง

ข้อดีของรูปแบบโฆษณานี้ ก็คือสามารถทำให้คุณประหยัดเวลามากขึ้น ไม่ต้องมานั่งสร้างโฆษณาหลายๆ ตัวให้เสียเวลา แถมยังสามารถส่งโฆษณา ที่ตรงใจผู้ค้นหามากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดก็คือ โฆษณาของคุณจะมีประสิทธิภาพสูงสุดมากขึ้นอย่างแน่นอน