การโฆษณาออนไลน์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้หน้าร้านของเรากว้างขึ้น ไปได้ไกลกว่าการเปิดหน้าร้านแบบออฟไลน์ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มที่เราไม่ได้สนใจ แต่การทำโฆษณาออนไลน์จะต้องมีการวางแผนให้ดีว่าวัตถุประสงค์ของธุรกิจต้องการอะไร กลุ่มเป้าหมายเป็นแบบไหน พฤติกรรมอย่างไรที่จะกระตุ้นการเข้ามาในธุรกิจเรา งบประมาณการทำโฆษณาของเราต้องอยู่ที่เท่าไหร เพราะจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเซียลมีเดีย ในการค้นหาข้อมูลสินค้า บริการ มีจำนวนมาก ทำให้สามารถเก็บข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลแล้วนำมาแก้ไขปรับปรุงให้ดีมากยิ่งขึ้น แล้วการทำโฆษณาออนไลน์มีความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามกระแสของกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเราในช่วงนั้น เราสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการตอบโต้ เช่น การตอบข้อความหรืออีเมล เมื่อทุกอย่างเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายก็จะทำให้ธุรกิจเราเป็นสังคมออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงทุกๆคนได้ และดึงดูดผู้คนที่มีความสนใจเหมือนกันเข้ามาในธุรกิจได้ดีมากยิ่งขึ้น
Google Ads เป็นแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ ที่เราสามารถแสดงโฆษณาออนไลน์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ เมื่อมีผู้คนค้นหาในGoogle ก็จะแสดงผลออกมาผ่านหน้าแสดงผลของ Google นั้นก็คือ Google Ads ซึ่งจะแสดงจากการใช้ Keywords คือคำสำคัญที่เราใช้เลือกกลุ่มเป้าหมาย ที่คำนั้นมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ สินค้าหรือบริการของเรา โดยเราจะทำการกำหนดแคมเปญ เพื่อกำหนดเป้าหมายการโฆษณาว่าต้องการแสดงไปที่กลุ่มไหน ซึ่งสามารถแสดงได้หลายรูปแบบ เช่น Search Ads ,Display Ads ,Video Ads ,App Ads ,Shopping Ads ,Local Ads ,Discovery Ads ซึ่ง Google Ads จะเหมาะสำหรับการทำธุรกิจแบบB2B เป็นการทำการค้าแบบธุรกิจกับธุรกิจ ส่วนใหญ่มักเป็นบริการที่ลูกค้าจำเป็นต้องหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนจะตัดสินใจทำการศื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ เมื่อเราทำ Google Ads เราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และรายงานผลลัพธ์การทำโฆษณาเพื่อที่เราจะนำไปปรับปรุง ปรับเปลี่ยนโฆษณาเพื่อกลยุทธ์ที่ดีขึ้น เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
อ่านข้อมูล Google Ads ฉบับเต็มอัพเดทล่าสุด 2023 : คลิก!
Facebook Ads เป็นแพลตฟอร์มการโฆษณาออนไลน์ที่เราสามารถสร้างโฆษณาออนไลน์บนเครือข่ายของ Facebook (ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทMeta :คลิก ) ซึ่งประกอบไปด้วย Facebook ,Instagram ,WhatsApp ,Messenger ซึ่งเราสามารถทำโฆษณาแล้วเชื่อมโยงไป Facebook และ Instagram โดยสามารถโฆษณาในรูปแบบโพสต์ วีดิโอ สไลด์ รูปภาพ เราสามารถกำหนดวัตถุประสงค์ได้ Awareness คือการสร้างความรับรู้ของสินค้าบริการเรา ,Consideration คือการมุ่งหวังความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย หาคนเข้าเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่นของธุรกิจเรา การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เยี่ยมชม ยอกการดูวีดิโอ หากลุ่มเป้าหมายที่สนใจให้มาสอบถามข้อมูลผ่านการ Inbox มาสอบถามสินค้าบริการของธุรกิจเรา ซึ่งสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการ อายุ เพศ สถานที่ งานที่ทำ ความสนใจ ข้อมูลอื่นๆได้ เมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายเสร็จสิ้นสามารถกำหนดงบประมาณตามที่เราต้องการ หรือให้ Facebook ช่วยกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมกับแคมเปญนั้นได้ Facebook Ads จะเหมาะกับธุรกิจประเภท B2C หมายถึงธุรกิจกับลูกค้าโดยตรงเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการโดยตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำการวิเคราะห์รายงานผลที่ติดตามจากผู้เข้าชมโฆษณา การตอบโต้ต่างๆ ทำให้เราสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น หัวข้อ รูปภาพ ข้อความ กลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น Facebook Ads จัดเป็นเครื่องมือที่มีความสามารถหลากหลายในการสร้างสรรค์ จัดการควบคุมโฆษณาออนไลน์ ที่เชื่อมโยงเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ในการเผยแพร่สินค้าบริการของธุรกิจเราผ่านสื่อออนไลน์
Google Ads และ Facebook Ads เป็นแพลตฟอร์มการโฆษณาออนไลน์ แต่มีลักษณะวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
ไม่มีคำว่าดีกว่ามีเพียงแค่ ยิ่งทำควบคู่กันยิ่งทำให้ธุรกิจดีขึ้น เพราะเราสามารถใช้ Facebook Ads ในการสร้างความรับรู้ของแบรด์ได้ เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่คนนิยมเข้าไปดูแล้วพอสนใจมักจะทำการค้นหาสินค้า หรือ บริการผ่าน Google ยิ่งถ้าเราทำทั้งสองไม่ว่ากลุ่มเป้าหมายเราจะ Search ช่องทางไหนก็จะแสดงสินค้าบริการของธุรกิจเรา แล้วเราควรกำหนดกลุ่มเป้าหมาของทั้งสองให้ชัดเจนว่าต้องการให้แสดงไปที่ใคร เพศ อายุ รายได้ ความสนใจ เพื่อให้เป็นการใช้ค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่คุ้มค่าที่สุด ทั้งสองแพลตฟอร์มมีฐานการเก็บข้อมูลลูกค้าอยู่แล้วเรานำไปวิเคราะห์เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีคุ้มค่า โดย Google Ads จะเป็นการเน้นขายสินค้าโดยตรง ส่วน Facebook Ads จะเป็นการโต้ตอบ มีส่วนร่วมกับแบรด์ สร้างความรับรู้ การใช้ทั้งสองก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของธุรกิจเรา
การเลือกใช้ Google Ads หรือ Facebook Ads ในการทำโฆษณานั้น ก็ดีทั้งคู่ แต่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเรา กลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจว่าเป็นแบบไหน ประเภทของการโฆษณา ประเภทของกลุ่มเป้าหมายว่ามีความสนใจอย่างไร เราอาจจะต้องทดลองทำทั้งสองเพื่อจะได้หาวิธีการที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรามากที่สุดในการทำโฆษณาออนไลน์ เพราะการตลาดออนไลน์ ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก เราควรศึกษาข้อมูลเทคนิคต่างๆให้ดี ว่าโอกาสแบบไหนของการตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจเรา เพื่อให้เราควบคุมงบประมาณการโฆษณาได้ดีที่สุด คุ้มค่าทีสุด มีประสิทธิภาพและทำให้ยอดขายเติบโตได้อย่างดี