ว่าด้วยเรื่อง Ads Format รู้จักครบ ใช้เป็น โฆษณาปัง ยอดขายถล่มอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ที่ลงโฆษณากับ Google Ads ต้องอ่าน ทำความรู้จัก Ads Format แต่ละรูปแบบ ที่คุณสามารถเลือกใช้ได้ตามเป้าหมายการตลาด หรือเลือกใช้ตามความต้องการของผู้บริโภค หากคุณไม่รู้ว่าควรลงโฆษณาแบบไหนดี วันนี้ Kodsana.com จะพามาทำความรู้จัก Ads Format แต่ละประเภท อย่างละเอียด จะสามารถใช้อย่างไร และเหมาะกับโฆษณาแบบไหนบ้าง มาอ่านกันเลย
Ads Format คืออะไร
Ad Format หรือที่เรียกอีกอย่างว่า รูปแบบของโฆษณา ซึ่งหมายถึง ลักษณะของโฆษณา ที่จะมีหน้าตาแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะในรูปแบบของ ข้อความ รูปภาพ หรือแม้กระทั่งวิดิโอ สำหรับคนทำ Google Ads ก็จะทราบกันดีว่า รูปแบบของโฆษณานั้นมีให้เลือกใช้อย่างมากมาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานสูงสุด รวมถึงบรรลุเป้าหมายการตลาดที่ตั้งไว้
Ads Format มีอะไรบ้าง
ซึ่งรูปแบบโฆษณาที่ทาง Google จัดเตรียมไว้สำหรับให้ผู้ใช้งาน ได้ลงโฆษณานั้น ก็มีหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ในแต่ละเป้าหมายของธุรกิจ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง และแต่ละตัวมีจุดเด่นอย่างไร ไปอ่านกันเลย
ขอบคุณภาพจาก : marketinganalytics.com
Text Ads คืออะไร
Text Ads คือรูปแบบโฆษณาที่มีลักษณะเป็นข้อความตัวอักษร เป็นรูปแบบโฆษณาที่นิยมใช้มากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของการทำโฆษณากับ Google เลยก็ว่าได้ ซึ่งส่วนประกอบของโฆษณารูปแบบนี้ จะประกอบไปด้วย Headline, Website URL, รายละเอียดโฆษณา ที่เป็น อักษร และพวก Call-To-Action
สำหรับ Text Ads นั้น สามารถนำไปใช้ได้กับแคมเปญโฆษณา 2 ประเภทด้วยกันคือ Search Network และ Google Display Network
ข้อดีของ Text Ads
โฆษณารูปแบบข้อความนั้น มีจุดเด่นคือมีความสะดวกและใช้งานง่าย คณสามารถคลิกเพียงไม่กี่คลิก ก็สามารถสร้างโฆษณาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวาง ขณะค้นหาใน Google ใช้ส่วนขยายโฆษณาเพื่อแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมและข้อมูลติดต่อที่ทำให้โฆษณาแบบข้อความของคุณตรงกับลูกค้ามากขึ้น
ข้อเสียของ Text Ads
เนื่องจากรูปแบบของโฆษณา Text Ads นั้น จะสามารถแสดงได้เฉพาะข้อความอย่างเดียวเท่านั้น จึงอาจลดความน่าสนใจไปบ้าง ซึ่ง Text Ads จะเหมาะกับธุรกิจจำพวกบริการ หรือมีผู้คนจำนวนมากค้นหา แต่จะไม่เหมาะ กับสินค้าและบริการ ที่มีความจำเป็นต้องใช้รูปเพื่อดึงดูดใจ เช่น เสื้อผ้า หรือสินค้าที่จำเป็นต้องมีรูปตัวอย่างสินค้าอย่างชัดเจน
ขอบคุณภาพจาก : digiravel.co.in
Ads With Extensions คืออะไร
สามารถเรียกอีกแบบได้ว่า ส่วนขยายโฆษณา เป็นโฆษณาที่มีข้อความหรือข้อมูล ที่เพิ่มจากการแสดงโฆษณาพื้นฐานตามปกติ มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งส่วนขยายการโทร , ส่วนขายข้อความ , ส่วนขยายลิ้งค์ , ส่วนขยายโครงสร้าง , ส่วนขยายราคา , ส่วนขยายพื้นที่ ฯลฯ ซึ่งส่วนขยายเหล่านี้ จะสามารถเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมให้กับโฆษณา ที่คุณไ่ม่สามารถบอกได้หมดในโฆษณาแบบพื้นฐานตัวเดียว เป็นรูปแบบของโฆษณาที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโฆษณาแบบพื้นฐานได้อย่างดีเยี่ยม
หากคุณอยากทำความรู้จักความสามารถของ Ads Extensions มากกว่านี้ สามารถอ่านบทความนี้ได้เลย ทำโฆษณาให้ปัง ด้วยการใช้ Ads Extensions
ข้อดีของ Ads With Extensions
ด้วยความที่ Ads Extensions นั้น สามารถแสดงข้อมูลเพิ่มเติมได้ นอกเหนือจากโฆษณาพื้นฐาน จึงทำให้ข้อมูลเหล่านั้น สามารถตอบโจทย์ผู้ค้นหา ทำให้ช่วยเพิ่มอัตราการคลิกให้สูงขึ้น เพราะเราสามารถเพิ่มคำโฆษณาที่เกี่ยวข้องได้ด้วยตัวเอง ทำให้คำโฆษณาของคุณกว้างขึ้น ดูโดดเด่นมากกว่าโฆษณาของผู้อื่น แถมยังเต็มไปด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ค้นหา จนสามารถเปลี่ยนเป็นลูกค้าของคุณได้
ข้อจำกัดของ Ads With Extensions
จริงๆ แล้ว Ads Extensions นั้นเป็นประโยชน์มากๆ กับโฆษณาพื้นฐาน แต่คุณอาจจะต้องระวังการนำแต่ละประเภทมาเลือกใช้ เพราะถ้าเลือกผิด ก็อาจจะลดประสิทธิภาพของโฆษณาลงได้ แทนที่จะทำให้ดีขึ้น อีกข้อสำคัญเลยก็คือ เนื่องจากส่วนขยายโฆษณารูปแบบนี้ Google ไม่ได้เก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จึงมีโอกาสที่ส่วนขยายจะไม่แสดงผลลัพธ์ออกมานั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก : columbiaroad.com
Shopping Ads คืออะไร
Shopping Ads ก็สามารถเรียกตรงตัวได้ว่า โฆษณาแบบช็อปปิ้ง หมายถึง เป็นโฆษณาที่พร้อมให้ผู้ชมเว็บไซต์ พร้อมทำการซื้อขาย ปิดการขาย โดยลักษณะโฆษณา จะแสดงรูปภาพผลิตภัณฑ์ ชื่อ ราคา ชื่อร้านค้า และรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นรูปภาที่เพิ่มเติมขึ้นมาบ โฆษณา จุดเด่นของโฆษณารูปแบบนี้คือ เป็นการบอกผู้ชมโดยตรง ว่าเราต้องการขายสินค้า ซึ่งลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าอยู่แล้ว ก็จะรู้สึกว่าสินค้าตัวนี้ ซื้อขายง่าย เปิดมาแล้วเจอเลย
โดยโฆษณาแบบ Shopping นั้น จะสามารถแสดงได้หลายแคมเปญโฆษณาเลย แน่นอนว่าอันดับแรกเลยคือ Google Shopping , Search Network , Display Network และเว็บไซต์พันธมิตรของ Google อีกมากมาย
ข้อดีของ Shopping Ads
ข้อดีของ Shopping Ads ก็คือ เพิ่มความรู้สึกให้กับผู้ชมเว็บไซต์ สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะซื้อสินค้าอยู่แล้ว ทั้งยังสามารถเพิ่มอัตราการคลิกได้ดี เมื่อเทียบกับโฆษณาแบบ Text Ads ทั้งสามารถแสดงโฆษณาที่มีสินค้าในเว็บไซต์ ได้หลากหลายรายการ รวมไปถึงอาจทำให้โฆษณาแบบข้อความขึ้นพร้อมกัน ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น ทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น ถือว่าเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพเลยทีเดียว
ข้อจำกัดของ Shopping Ads
จุดเด่นของโฆษณาประเภทนี้ก็คือ มีความดึงดูดน่าสนใจ สามารถเพิ่มอัตราการคลิกได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่ผู้ลงโฆษณาต้องพึงระวังก็คือ คนที่คลิกเข้าไปนั้น อาจจะไม่ใช่คนที่มีความต้องการซื้อสินค้าจริงๆ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ก็จะทำให้คลิกของคุณไม่เกิด Conversions (การกระทำปิดการขาย)
ขอบคุณภาพจาก : smartbugmedia.com
Image Ads คืออะไร
เป็นรูปแบบหนึ่งของโฆษณา ที่สามารถเรียกตรงตัวได้ว่าโฆษณาแบบรูปภาพ ซึ่งสามารถเป็นภาพนิ่งหรือภาพแบบอินเทอร์แอกทีฟ สามารถใช้โฆษณาภาพเคลื่อนไหวรูปแบบ .gif และ Flash ได้
มีจุดเด่นคือสามารถแสดงภาพสินค้าและบริการของคุณได้บนโฆษณาเลย ซึ่งโฆษณาชนิดนี้จะเข้าถึงลูกค้าในเว็บไซต์ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google
โดย Image Ads สามารถนำไปใช้ได้กับแคมเปญโฆษณา 2 ประเภทด้วยกันคือ Search Network และ Google Display Network แต่จะแสดงผลในเว็บไซต์พันธมิตร Search Network แต่จะไม่แสดงผลบน Search Result
ข้อดีของ Image Ads
จุดเด่นที่สุดของ Image Ads ก็คือ คุณสามารถมีโฆษณาที่โดดเด่นได้ เพราะเราสามารถดีไซน์ได้เอง ออกแบบได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ออกแบบภาพตามขนาดที่ Google ต้องการอัปโหลดรูปภาพลงไป ทำให้คุณสามารถแสดงภาพสินค้า และ บริการได้ตามใจชอบ เพิ่มความน่าสนใจ ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาคลิกได้ง่ายเลยทีเดียว
ข้อจำกัดของ Image Ads
ข้อจำกัดของ Image Ads ก็คือเนื่องจาก Placement ในแต่ละที่ มีที่ว่างสำหรับสำหรับวางแบนเนอร์ไม่เท่ากัน ซึ่งจะแตกต่างออกไปหลายขนาด หลายรูปทรง หากจะทำให้ครอบคลุมทุกเว็บไซต์นั้น อาจต้องทำรูปภาพจำนวนมาก เพราะหากเราทำ Image Ads ออกมาจำนวนน้อย หรือขนาดไม่สัมพันธ์กับพื้นที่แสดง ก็จะส่งผลทำให้โฆษณาถูกลดอัตรการแสดง ทำให้ Impressions ลดลง และโฆษณาของคุณถูกลดโอกาสการมองเห็นจากว่าที่ลูกค้าจำนวนมากนั่นเอง และยังเป็นโฆษณาที่ค่อนข้างมีประสิทธิน้อยกว่าประเภทอื่นๆ เนื่องจากค่า CTR, Impressions และจำนวนคลิก ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับโฆษณาในรูปแบบอื่นๆ
ขอบคุณภาพจาก : clicteq.com
Video Ads คืออะไร
โฆษณาแบบวิดีโอ ก็คือการสร้างโฆษณาในรูปแบบเคลื่อนไหว สำหรับใน Google Ad สามารถใช้รูปแบบ Video Campaign เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับกลุ่มลูกค้า ทั้งบน Youtube และ Website หรือ Application ที่เป็น partner ของ Google เอง ซึ่ง Video Ads ก็มีหลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะ TrueView Video (โฆษณาที่จะจ่ายเงินเมื่อมีคนดู) , Bumpers ๖(รูปแบบ Video Ad สั้นๆ ไม่เกิน 6 Secs) และ Outstream Ads (รูปแบบ Video Ad ใน Mobile เท่านั้น )
โดยโฆษณาแบบวิดิโอนั้น จะอยู่ในแคมเปญประเภท Search Network และ Display Network
ซึ่งโฆษณาแบบ Video จะแสดงผลบน Search Partner Networks แต่จะไม่แสดงผลบนการค้นหาใน Google Result
ข้อดีของ Video Ads
แน่นอนว่าโฆษณาแบบวิดิโอนั้น ย่อมมีความน่าสนใจมากกว่าโฆษณาในรูปแบบอื่นๆ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือข้อความ เพราะวิดิโอนั้น สามารถสื่อสารได้ทั้งภาพเคลื่อนไหว และเสียง ทำให้สามารถดึงดูดใจผู้ชม และเพิ่มความโดดเด่นมากกว่านั่นเอง
ข้อจำกัดของ Video Ads
หนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุด สำหรับโฆษณาแบบวิดิโอนั้น ก็คือ รูปแบบของโฆษณานั้น ส่วนใหญ่มักจะแทรกอยู่ตามเนื้อหาวิดิโอ เช่น บนยูทูป สิ่งที่ต้องพึงระวังคือผู้ใช้งาน อาจจะรู้สึกรำคาญ เนื่องจากพวกเขาต้องการชมเนื้อหาของวิดิโอมากกว่า วิดิโอโฆษณา ดังนั้น สิ่งที่เจ้าของโฆษณาต้องทำก็คือ ทำให้วิดิโอของคุณ มีความดึงดูดใจ น่าสนใจมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสนใจ และไม่รำคาญจนกดปิดไปก่อนนั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก : periscopix.co.uk
App Promotion Ads คืออะไร
หากคุณมีแอพลิเคชั่นเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ การลงโฆษณาแบบ App Promotion Ads จะสามารถช่วยโปรโมทแอพลิเคชั่นของคุณได้ โดยโฆษณาจะส่งไปบน App store ให้แก่ผู้ใช้งานในนั้น เพื่อทำการ Download App ของคุณโดยรวมไปถึง Deep Link ที่จะวิ่งตรงไปยัง App ของคุณโดย App Promotion Ads จะสามารถขึ้นไปแสดงได้ในแคมเปญของ Search Network , Display Network
ข้อดีของ App Promotion Ads
App Campaign แตกต่างจากแคมเปญ Google Ads ส่วนใหญ่ตรงที่คุณไม่ต้องออกแบบโฆษณาให้ แต่เราจะใช้แนวคิดข้อความโฆษณาและเนื้อหาจากข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปมาออกแบบโฆษณาหลายรูปแบบที่ใช้ได้บนเครือข่ายต่างๆ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือป้อนข้อความส่วนหนึ่ง ราคาเสนอเริ่มต้น และงบประมาณ และแจ้งภาษาและสถานที่ตั้งสำหรับโฆษณาให้เราทราบ ระบบของเราจะทดสอบการผสมผสานเนื้อหาในรูปแบบต่างๆ และแสดงโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดให้บ่อยขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม
ขอบคุณภาพจาก : searchengineland.com
Call-only Ads คืออะไร
โฆษณาแบบ โทรหาเท่านั้น (Call-only ads) อนุญาตให้ลูกค้าของคุณ โทรเข้ามาสอบถามธุรกิจและบริการของคุณโดยตรง มันช่วยในการเพิ่มโอกาสการโทรเข้ามาสอบถาม โดยการคลิ๊กบนโฆษณาโดยที่อุปกรณ์นั้นสามารถโทรออกได้ทันที โดยโฆษณาแบบนี้จะสามารถแสดงได้ในเฉพาะแคมเปญ Search Network เท่านั้น
ข้อดีของ Call-only Ads
ข้อดีของโฆษณาแบบโทรนั้น จะสามารถเพิ่มจำนวนการโทรมายังธุรกิจด้วยโฆษณาที่มีหมายเลขโทรศัพท์ ผู้ใช้สามารถคลิกโฆษณาเหล่านี้และโทรหาธุรกิจของคุณได้โดยตรง โฆษณาประเภทนี้จะปรากฏเฉพาะบนอุปกรณ์ที่โทรออกได้เท่านั้น และช่องทุกช่องในโฆษณาสามารถซ่อนได้เพื่อให้พอดีกับหน้าจอขนาดเล็ก
Ad Format นั้น มีโฆษณาหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ซึ่งคุณสามารถเลือกให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่สุด หรือเลือกให้ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นอง
Text ads – โฆษณาในรูปแบบข้อความ ที่เหมาะสำหรับธุรกิจประเภทที่มีคนค้นหาเยอะๆ จุดเด่นคือใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว แต่อาจจะมีความน่าสนใจน้อยกว่าโฆษณารูปแบบอื่นๆ
Ads with Extensions – ส่วนขยายโฆษณา ที่สามารถเพิ่มข้อมูล และความน่าสนใจให้กับโฆษณาได้เป็นอย่างดี เหมาะกับสินค้าและบริการทุกประเภท ทุกรูปแบบ แต่ควรคำนึงการเลือกใช้ในแต่ละประเภทให้เหมาะสม
Shopping Ads – โฆษณาที่มีจุดเด่นคือ สามารถให้ผู้ชมเว็บไซต์พร้อมซื้อขายได้ทันที โดยรูปแบบโฆษณาจะแสดงทั้ง รูปภาพ ชื่อสินค้า และราคา
Image Ads – รูปแบบของโฆษณาที่สามารถสร้างความโดดเด่นได้ดีกว่า โฆษณาแบบข้อความ แม้จะมีความยุ่งยากในการจัดทำ แต่คุณจะสามารถส่งสินค้าของคุณให้โดดเด่นบนเว็บไซต์ได้อย่างแน่นอน
Video Ads – โฆษณาในรูปแบบที่เป็นไดนามิกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหว และ เสียง เพิ่มความน่าสนใจ แต่อาจจะต้องระวังในการรบกวนผู้ใช้งาน ดังนั้นควรออกแบบให้มีคุณภาพสูงสุด
App Promotion Ads – แน่นอนว่าเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีแอพลิเคชั่น เพราะสามารถส่งตรงกับหน้าค้นหา และไปยังหน้าดาวโหลดได้โดยตรง
Call-only ads – รูปแบบของโฆษณาที่จะสามารถเพิ่ม Conversions ให้กับการทำ Google Ads ได้อย่างดีเยี่ยม